หมวดหมู่: บริการด้านเส้นผม
LASER HAIR THERAPY คืออะไร ?
โปรแกรม Laser Hair Therapy รักษาผมร่วงนี้ เป็นเทคโนโลยีการรักษาผมร่วงใหม่ล่าสุดเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและเร่งการเจริญเติบโตของเส้นผมที่เกิดใหม่ และป้องกันการหลุดร่วงของเส้นผมเดิม โดยใช้แสง LEDสีแดง ซึ่งรักษาปัญหาได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง โดยไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด ไม่เจ็บ และได้ผลดี

LASER HAIR THERAPY ดีอย่างไร?
- ช่วยฟื้นฟูเส้นผมให้มีการเจริญเติบโตที่ดีขึ้น
- ซ่อมแซมเส้นผมส่วนที่เสียหาย ช่วยให้แข็งแรงและหนาขึ้น
- กระตุ้นและเพิ่มปริมาณการไหลเวียนของเส้นเลือดบริเวณหนังศีรษะ
LASER HAIR THERAPY เมื่อไหร่จะถึงระยะเวลาเห็นผล?
แนะนำให้รักษาอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง โดยแต่ละครั้งใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที โดยจะสามารถสังเกตเห็นผลได้ชัดเจนที่ประมาณ 3 เดือนหลังการรักษา โดยสามารถรักษาร่วมกับโปรแกรมอื่นๆ เช่น PRP หรือ Triple H Program

การฟื้นฟูผมให้แข็งแรงขึ้นด้วยการใช้ stem cell จากเลือดตัวเอง
PRP StamCell หรือการทำ PRP (เกล็ดเลือดเข้มข้น) คือ เกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นกว่าเกล็ดเลือดในกระแสโลหิตทั่วไป 3-4 เท่า โดยเกล็ดเลือดเข้มข้นที่เหมาะสมในการใช้รักษา ควรมีปริมาณเกล็ดเลือดประมาณ 1,000,000 หน่วยต่อไมโครลิตร


PRP ได้จากการปั่นแยกโลหิตออกมาโดยใช้เครื่องเหวี่ยงสาร (Centrifuge)
PRP จะประกอบไปด้วยสารต่างๆ ที่ช่วยการแข็งตัวของเลือด ช่วยสร้างและส่งเสริมการสร้างเส้นเลือด กระตุ้นการเจริญเติบโตและการแบ่งของเซลล์ผิวหนัง กระดูก คอลลาเจน ช่วยให้แผลสมานเร็วขึ้น
ประโยชน์ของ PRP ในภาวะผมร่วงผมบาง
- ส่วนการรักษาผมร่วง ผมบาง ได้มีแพทย์ใช้PRPแล้ว สามารถชะลออาการผมบางและช่วยให้ผมกลับมาแข็งแรงขึ้น
- PRP ช่วยให้ผลลัพธ์ของการปลูกผมดีขึ้น อัตราการขึ้นของเส้นผมเยอะขึ้น และยังช่วยให้ผมที่บาง หนาตัวและมีความแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
ขั้นตอนการทำ PRP
- เจาะเลือดจากแขนประมาณ 20-30มล. โดยเติมสารป้องกันการแข็งตัวของเลือด แล้วนำไปปั่นแยกในเครื่อง Centrifuge
- เอาส่วน PRP ออกมา แล้วฉีดกลับเข้าหนังศีรษะ โดยมีการทายาชา ร่วมกับการฉีดยาชาก่อนการรักษา
ผลการรักษา
- จะเห็นผลหลัง 3-4 เดือนไปแล้ว โดยติดตามการรักษาโดยกล้อง Video Trichogram และภาพถ่าย
- ผลการรักษาต่างกันขึ้นกับภาวะผมบางก่อนทำ
- ทำทุก 1 เดือน โดยแนะนำให้ทำซ้ำประมาณ 3-5 ครั้ง
- ใช้ร่วมกับการรักษาอย่างอื่นได้ เช่น laser กระตุ้นรากผม, Triple H Program หรือการใช้เข็มขนาดเล็กสะกิดวิตามินบำรุงผมเข้าสู่หนังศีรษะ รวมทั้งการรับประทานยาและวิตามินบำรุงรากผม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น
- โอกาสแพ้น้อยมากเพราะเป็นเลือดจากเราเอง
- ผลข้างเคียงอาจมีอาการอักเสบ จากการฉีด และมีอาการเจ็บเล็กน้อยหลังจากการฉีด

การปลูกผมเทคนิค Long Hair Transplant เป็นการปลูกผมโดยใช้เทคนิคเดียวกับการปลูกผมFUE แตกต่างกันตรงที่การแยกเก็บเซลล์รากผม โดยเทคนิค Long Hair จะนำเซลล์ผมที่ยังคงความยาวของเส้นผมมาปลูก เทคนิคนี้สามารถสร้างแนวผมใหม่ที่มีลักษณะผมยาวกว่าการปลูกผมแบบธรรมดา

ปลูกผมเทคนิค Long Hair ดีอย่างไร ?
- เป็นการปลูกผมไร้แผลผ่าตัด หลังผ่าตัดจะแทบมองไม่เห็นแผลเลย
- ไม่จำเป็นต้องตัดผมสั้น สำหรับใครที่ต้องการไว้ผมยาว
ปลูกผมเทคนิค FUT คือ ?
Follicular Unit Transplantation (FUT) เป็นการปลูกผมถาวรเทคนิคมาตรฐานที่ยังใช้สากลกันอยู่ทั่วโลก โดยจะเป็นการตัดเอาหนังศีรษะด้านหลังซึ่งมีรากผมที่แข็งแรงและแทบไม่มีการหลุดร่วงของเส้นผม นำมาปลูกในบริเวณที่มีปัญหา (ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน) ซึ่งการปลูกผมแบบผ่าตัดนั้นเป็นการผ่าตัดที่ไม่ต้องใช้ยาสลบ ใช้แต่การฉีดยาชาเฉพาะบริเวณที่ทำการปลูกย้ายเซลล์รากผมเท่านั้น โดยระยะเวลาในการผ่าตัดนั้นจะขึ้นอยู่กับจำนวนรากผมที่ปลูกร่วงแต่ละบุคคล โดยผลลัพธ์ของการปลูกย้ายเซลล์รากผมแบบผ่าตัดนั้นเห็นผลชัดเจนและมีความปลอดภัยสูงเพราะดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการปลูกผมโดยตรง


ปลูกผมเทคนิค FUT ดีอย่างไร?
- เป็นแผลแบบปิดโอกาสติดเชื้อ น้อยกว่า 1 %
- ใช้ระยะเวลาในการทำเมื่อเทียบกับจำนวนกราฟแล้วใช้เวลาสั้นกว่า
- สามารถทำได้ครั้งละมากๆ เช่น เกิน 2,500 กราฟขึ้นไป
- สามารถไว้ผมยาวปิดแผลได้ เพราะบริเวณด้านหลังจะโกนผมออกเล็กน้อย เฉพาะบริเวณที่นำชิ้นเนื้อออกมา
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเป็นบริเวณกว้าง
ปลูกผมเทคนิค FUT มีข้อเสียอย่างไร?
ถึงการปลูกผมเทคนิค FUT จะเป็นวิธีมาตราฐานและได้ผลลัพธ์ที่ดีแต่ก็แบบมีข้อเสียอย่างการมีแผลเป็นที่มีลักษณะเป็นแนวยาวซึ่งมาจากการผ่าตัดนั้นเอง


ปลูกผมเทคนิค FUE คือ ?
Follicular Unit Extraction (FUE) เป็นการปลูกผมถาวรแบบย้ายเซลล์ผมโดยไม่ต้องตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว ไม่มีแผลเย็บเหมือนวิธีทั่วไป (strip FUT) โดยวิธีนี้จะใช้หัวเจาะขนาดเล็ก 0.8-1.2 มม. เจาะลงไปรอบๆ กอผมลึกลงไปถึงรากผมด้านล่าง จากนั้นแต่ละกอผมจะถูกดึงออกมาจากหนังศีรษะ ซึ่งเป็นเทคนิคมาตรฐานสากลที่ใช้ทั่วโลก ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคนิคที่ให้ผลเรื่องความสวยงาม และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ศัลยกรรมปลูกผมจึงเป็นวิธีแก้ปัญหาผมบางที่ได้ผลมากที่สุดในเวลานี้

ปลูกผมด้วยวิธี FUE ดีอย่างไร ?
- คนไข้จะรู้สึกเจ็บแผลน้อยกว่าวิธี Strip เพราะไม่ได้ตัดหนังศีรษะออกมา
- สามารถนำเส้นขนจากบริเวณอื่นๆของร่างกาย เช่น หนวด เครา ขนหน้าอก ขนแขน ขนหน้าแข้ง มาปลูกที่ศีรษะได้ขึ้นอยู่กับลักษณะของเส้นขนบริเวณนั้น
- การปลูกผมแบบ FUE กำลังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก (Microdiscection) ไม่มีการเย็บแผล
- สามารถไว้ผมทรง Skin head ได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแผลบนศีรษะ
ทำไมต้องปลูกผมถาวรที่ Dr.Orn Clinic ?
- Dr.Orn มีทีมแพทย์เฉพาะทางและทีมปลูกผมมากประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับในฝีมือและผลลัพธ์อย่างดีมาโดยตลอด 7 ปี
- ด้วยเทคนิคพิเศษและความชำนาญที่ทาง Dr.Orn พัฒนาขึ้น ทำให้สามารถดึงกราฟผมออกมาด้วยหัวเจาะที่มีขนาดเพียง 0.8 มิลลิเมตร ซึ่งแทบจะมองไม่เห็นแผลด้านหลังเลยหลังได้รับการปลูกผม
- พักฟื้นสั้นเพียงไม่กี่วันก็สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ
- เราดูแลกันตลอด 1 ปี ด้วยโปรแกรม Red Light Therapy ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผมใหม่และช่วยในระบบไหลเวียนของเลือด
- ได้รับความไว้วางใจและการตอบรับที่ดีมาตลอดจาก ดารา นักแสดง และผู้รับบริการจริง

คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการปลูกผม
Q : กราฟผมคืออะไร?
A : กราฟผมคือ กอผม 1กอที่จะมีเส้นผมอยู่ตั้งแต่ 1-4 เส้น โดยการปลูกผมของ Dr.Orn จะย้ายกอผมที่มีตั้งแต่ 2 เส้นขึ้นไปเพื่อทำการปลูกผมให้ดูหนาแน่น และเป็นธรรมชาติ
Q : ปลูกผมใช้เวลาและพักฟื้นนานไหม?
A : การปลูกผมใช้เวลาเพียง 6-8ชั่วโมง และพักฟื้นเพียง2-3วันเท่านั้น ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตและทำงานได้ตามปกติ
Q : ผมที่ปลูกไปจะร่วงอีกไหม จะอยู่กับเราไปนานแค่ไหน?
A : ผมที่เราคัดมาปลูกนั้น จะเป็นเส้นผมบริเวณ Donor Area(บริเวณท้ายทอยและหลังกกหู) ซึ่งเป็นบริเวณที่รากผมไม่มีต่อมรับสัญญาณเพศชายที่จะไปกระตุ้นให้ผมร่วง ซึ่งหมายความว่าผมที่ปลูกไปแล้วจะไม่ร่วงและอยู่กับเราไปถาวร
Q : ปลูกผมถาวรต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่?
A : ค่าใช้จ่ายในการปลูกผมถาวรจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่คนไข้กังวล โดยจะประเมินและวัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ