เรื่องคิ้วๆ ไม่ได้แปลว่าน่ารัก เพราะคิ้วบางจนต้องกุมขมับ เริ่มขาดความมั่นใจ! ความหนา ความบางของคิ้ว ปัญหาเบอร์ใหญ่ที่ไม่ใช่แค่ในเฉพาะสาวๆ เท่านั้น แต่กลายเป็นปัญหาที่รบกวนชีวิตประจำวันของผู้ชายอีกจำนวนไม่น้อย จนเกิดเป็นคำถามเปรียบเทียบระหว่างการสักคิ้ว VS ปลูกคิ้ว วิธีไหนดีและคุ้มจะลงทุนมากกว่ากัน ? 

3 ความต่าง! ทำไมบางคนคิ้วบาง บ้างก็ขนคิ้วน้อย ?

นอกจากทรงผม ใบหน้า และการแต่งตัวจะเป็นจุดดึงสายตา ช่วยสร้างความประทับใจแรก (First impression) ของเราทุกคนได้แล้ว ว่ากันว่า “คิ้ว” สามารถช่วยให้เราจดจำใบหน้าคนได้ง่ายขึ้นอีกด้วย! รวมถึงการช่วยแสดงอารมณ์ต่างๆ ในช่วงที่เรายังคงต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยกันเป็นประจำ ทั้งการขมวดคิ้ว หรือยักคิ้ว ในเมื่อคิ้วคือหนึ่งสิ่งที่ธรรมชาติให้พวกเรามา แต่ทำไมบางคนถึงโดนธรรมชาติละเลยไป… คิ้วบาง คิ้วหนา แต่ละคนต่างกันเพราะอะไร เกิดจากอะไรได้บ้าง ?

  • กรรมพันธุ์ สาเหตุพื้นฐานที่ยากต่อการหลีกเลี่ยง ทั้งยังเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ เมื่อพูดถึงปัญหาด้านสุขภาพและร่างกายของมนุษย์ทุกคน
  • ฮอร์โมน เกิดจากการทำงานของต่อมไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งส่งผลต่อเส้นขนทุกส่วนภายในร่างกาย
  • โรค หรือความเจ็บป่วยต่างๆ เช่น โรคผิวหนังอักเสบ โรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) โรคซิฟิลิส รวมถึงภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากปัจจัยทางด้านพันธุกรรมเป็นหลัก ที่ทำให้สาวๆ หลายคนต้องยอมทนตื่นเช้าขึ้นมาจัดเมคอัพทุกวัน หรือการหาเซรั่มมาใช้บำรุงคิ้ว รวมถึงการสักคิ้วและปลูกคิ้วที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะผลลัพธ์ที่ทันใจแก้ปัญหาได้ไวกว่า แล้วปลูกคิ้วกับสักคิ้วต่างกันยังไง… ออปชันไหนให้ผลลัพธ์ยังไงบ้าง ?

ปลูกคิ้วกับสักคิ้ว แบบไหนดีกว่ากัน

ปลูกคิ้ว กับ สักคิ้ว ต่างกันอย่างไร ?

หลายๆ คนที่ตัดสินใจอยากแก้ปัญหาคิ้วบางทำหน้าโล้นแบบจบๆ เห็นผลทันที อาจมีคำถามว่า สักคิ้วกับปลูกคิ้วต่างกันยังไง? ในเมื่อผลลัพธ์ที่ได้ก็แทบจะใกล้เคียงกัน เห็นผลหลังทำได้ทันที แถมยังเป็น 2 วิธี ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ชวนมาส่องคำตอบจากคำถามที่พบได้บ่อยสุด เกี่ยวกับความแตกต่างของการสักคิ้ว VS การปลูกคิ้ว

คำถามพบบ่อย สักคิ้ว ปลูกคิ้ว

สักคิ้ว ปลูกคิ้วคืออะไร

การฝังเม็ดสีไปที่บริเวณคิ้วที่ต้องการ
ใช้เทคนิคเดียวกันกับการปลูกผม โดยการย้ายเซลล์รากผม (ที่ไม่มีต่อมรับสัญญาณฮอร์โมนเพศ DHT) นำมาปลูกกลับบริเวณคิ้วที่กำหนดไว้
นานไหมกว่าจะเห็นผลรอคิ้วลอก 3-4 วันเห็นผลทันที ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
ทรงคิ้วธรรมชาติ ดูเป็นมิติไหมลักษณะคิ้วไม่มีมิติ (แบนราบตามผิวหนัง) ขาดความเป็นธรรมชาติได้ทรงคิ้ว เส้นคิ้วใหม่ที่เป็นธรรมชาติ มีความเป็นมิติ ไม่แบนราบ
อยู่ได้นานแค่ไหนอยู่ได้ประมาณ 2-3 ปี ต้องคอยเติมเรื่อยๆ อยากเปลี่ยนทรงต้องใช้เลเซอร์ยิงออกอยู่ถาวร สามารถเปลี่ยนทรง(กันคิ้ว)ตามต้องการได้ทันที

จะเห็นว่า การสักคิ้วกับการปลูกคิ้วนั้นมีวิธีการและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะความเป็นธรรมชาติที่แม้มองเผินๆ จะเห็นว่ามีคิ้ว แต่ด้วยโครงคิ้วที่แบนราบจึงทำให้ใบหน้าโดยรวมไม่มีมิติ หลายคนจึงให้ความสนใจกับการปลูกคิ้วมากกว่า แบบนี้ถ้าเคยสักคิ้วมาก่อนสามารถปลูกคิ้วได้ไหมนะ ?

ปลูกคิ้วกับสักคิ้ว แบบไหนดีกว่ากัน

อยากปลูกคิ้วถาวร แต่เคยสักคิ้วมาก่อน… ทำได้ไหม ?

คำตอบคือ สามารถทำได้ โดยเป็นการปลูกคิ้วเพิ่มเติมเพื่อความสวยงามและเน้นทรงให้ชัดเจนตามธรรมชาติ อีกทั้งการปลูกคิ้วถาวรจำเป็นต้องอาศัยแพทย์ที่มีความชำนาญสูง เนื่องจากแพทย์ต้องประเมินลักษณะโครงหน้าบวกกับความต้องการของเราเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ทรงคิ้วที่เหมาะสมและสวยงาม ซึ่งการปลูกคิ้วในคนที่เคยผ่านการสักคิ้วมาก่อนก็สามารถทำได้ ดังนี้

  • กรณีที่ต้องการปลูกขนคิ้วให้มีมิติ เพิ่มความเป็นธรรมชาติให้ทรงคิ้วสมบูรณ์มากขึ้น
  • คนที่เคยผ่านการยิงเลเซอร์เพื่อลบรอยสักคิ้วออก สามารถตกแต่งขนคิ้วจริง พร้อมสร้างโครงคิ้วขึ้นใหม่ได้

รวมถึงคนที่มีคิ้วอยู่เดิม แต่อยากเพิ่มเติมขนคิ้วในบริเวณที่ขาดก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งที่ Dr.Orn Medical Hair Center ผู้นำในด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยด้านการดูแลเส้นผม มาพร้อมเทคนิคการปลูกคิ้วถาวรแบบไร้รอยแผลด้วยเซลล์รากผมโดยผู้เชี่ยวชาญ สำหรับผู้ที่มีปัญหาคิ้วบางและต้องการสร้างรูปคิ้วใหม่ สามารถนัดปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงความต้องการและปัญหาก่อนทำการปลูกคิ้วได้อย่างมั่นใจ เพราะการมีคิ้วที่ใช่ เหมือนการมอบรางวัลชิ้นใหญ่ให้ใบหน้า! 

ปรึกษาปัญหาสุขภาพเส้นผมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ  Dr. Orn Medical Hair Center


เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก แม้จะพิถีพิถันดูแลรูปร่างและใบหน้าเป็นประจำแล้ว ทรงผมเจ้ากรรมยังแอบทำพิษ! เพราะผมเยอะ ผมหนาก็จริง แต่มีปัญหาเรื่องหน้าผากสูงหรือหน้าผากกว้างเข้ามาแทรก จนเกิดคำถามว่าลักษณะแบบไหนถึงใช่… หัวเถิก แล้วมีวิธีไหนช่วยเรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้บ้าง… หัวเถิกทําไงดี ? เรามี 3 วิธีดีๆ มาแนะนำ

หน้าผากคล้าย ‘หัวเถิก’ ก็จริง แต่(อาจ)ไม่ใช่

เคยสงสัยไหมว่า หัวเถิกกับหัวเหม่งแตกต่างกันไหม แล้วหัวเถิกกับหน้าผากกว้างใช่เรื่องเดียวกันหรือเปล่า ? ปัญหาหน้าผากที่เขย่าความมั่นใจให้ทลายลงได้เหมือนๆ กัน มีความแตกต่างกันยังไง ชวนเช็กลักษณะหน้าผากแต่ละแบบง่ายๆ ดังนี้

ลักษณะหัวเถิก (M)

คือ ลักษณะหน้าผากสูง แนวไรผมถอยร่นขึ้นเป็นแนวตั้ง สามารถเช็กได้โดยการใช้ไม้บรรทัดวัดตั้งแต่บริเวณโคนผมลงมาถึงคิ้ว หากได้ความยาวเกิน 11 ซม. ถือว่าเข้าข่ายอาการหัวเถิก หรือลองวัดง่ายๆ ด้วยฝ่ามือให้นิ้วก้อยจรดคิ้ว ถ้าโคนผมอยู่เลยนิ้วโป้งขึ้นไปก็หมายความว่าหัวเถิกเช่นกัน แต่โดยมากแล้ว ลักษณะหัวเถิกแบบตัวเอ็ม ก็คือลักษณะหน้าผากเว้าลึกหรือถอยร่นเข้าไปโดยไล่จากบริเวณแนวผมทั้ง 2 ข้าง จนทำให้มองดูคล้ายเป็นรูปตัวเอ็มนั่นเอง

ลักษณะหน้าผากกว้าง

คือ ลักษณะหน้าผากที่ขยายออกด้านข้าง(แนวนอน) ซึ่งเป็นคนละอย่างกับอาการหัวล้านที่มักเกิดเป็นลักษณะตัวเอ็ม หรือบริเวณกลางศีรษะ แต่มีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์เช่นเดียวกัน เราสามารถเช็กลักษณะหน้าผากกว้างได้จากการใช้ฝ่ามือวางทาบ จากคิ้วถึงแนวไรผม(เหมือนวัดไข้)หากมือเราเล็กกว่าหน้าผากนั่นอาจเป็นสัญญาณของลักษณะของคนหน้าผากกว้าง

ลักษณะหัวเหม่ง

คือ ลักษณะหน้าผากที่โหนกนูนออกมา แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีหน้าผากนูนๆ เหมือนๆ กัน แม้หลายคนจะพยายามปรับแต่งทรงผมให้ลงมาช่วยบดบังหัวเหม่ง แต่ความนูนแบบพอดีๆ ก็สามารถช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้าได้เช่นกัน

หัวเถิกทำไงดี

หัวเถิกทำไงดี ? ปกปิดด้วยวิธีแบบนี้จะรอดไหม

แม้เราจะบอกว่าลักษณะหน้าผากโหนกนูนจะช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้าได้ แต่เพื่อความมั่นใจหลายๆ คนก็เลือกที่จะแก้ไขหน้าผากใหม่อยู่ดี เพราะแม้แต่ผู้ที่ไม่เคยมีประวัติครอบครัวมีปัญหาหน้าผากเถิกมาก่อน ก็สามารถถูกกระตุ้นจากปัจจัยภายนอกได้ เช่น การมัดผม การใช้สารเคมีที่เส้นผม(ทำสี ดัด หรือยืด) การขาดสารอาหาร และการกินยาคุม เป็นต้น “หัวเถิกทำไงดี” จึงเป็นปัญหาที่ยังเกิดขึ้นกับคนทุกยุคทุกสมัย พร้อมๆ กับวิธีแก้ไขที่หลายคนต้องนึกถึง เช่น การเปลี่ยนทรงผมใหม่ รวมถึงวิธีง่ายๆ ที่(อาจ)ช่วยแก้ปัญหาหัวเถิก หรือลดพื้นที่บริเวณหน้าผากให้ดูเล็กลงได้

1.ตัดหน้าม้า

จัดว่าเป็นทรงผมช่วยชีวิตของสาวๆ หลายคนที่หลีกเลี่ยงปัญหาหน้าผากในรูปแบบต่างๆ ไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะสาวๆ หัวเหม่งที่มักตัดจบปัญหาด้วยผมทรงนี้ บวกกับกระแสเทรนด์เกาหลีที่ทรงผมหน้าม้าสามารถช่วยเติมลุคหวานๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ หน้าม้าแบบนี้เลยเป็นทรงฮิตตลอดกาล

2.แสกข้าง

การไว้ผมแสกข้างถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความกว้างของหน้าผากได้ แบ่งออกเป็นการแสกข้างแบบผมยาว และแสกข้างแบบผมสั้น(ปัดจากหน้าม้า) อีกทั้งข้อดีของการแสกข้างคือช่วยเสริมให้หน้าดูเรียวขึ้นได้อีกด้วย

3.ปล่อยยาว

การปล่อยผมยาวโดยที่ไม่ต้องจัดการอะไรมาก ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยปกปิดปัญหาหน้าผากกว้าง หัวเถิกของสาวๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งยังช่วยเพิ่มหน้าวีให้ใบหน้าได้แบบตรงๆ เรียกว่าเป็นวิธีหลอกสายตาที่ช่วยเพิ่มความหวานให้กับใบหน้าของสาวๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเป็นการสร้างวอลลุ่มให้เส้นผมโดยรวม โดยเฉพาะคนที่มีเส้นผมสุขภาพดี เงางาม มีน้ำหนักอยู่แล้วยิ่งช่วยให้ผมดูสุขภาพดีไปอีก!

การจบปัญหาหัวเถิกหน้าผากกว้าง หรือหัวเหม่งด้วยทรงผมหน้าม้าและวิธีอื่นๆ เหล่านี้ อาจเป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่เรามักนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีนี้ เพราะยังมีปัจจัยของโครงหน้าเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าปิดแล้วไม่ได้ดั่งใจ… จะดีกว่าไหมถ้าสามารถแก้ปัญหาหัวเถิกได้โดยที่โครงหน้ายังสวยอยู่!

หัวเถิกทำไงดี

มัดรวม 2 เทคนิคสร้างกรอบหน้าใหม่ ช่วยปิดหัวเถิก!

เพราะการตัดผมหน้าม้า แสกข้าง หรือปล่อยผมยาวนั้นอาจใช้ได้แค่ในเฉพาะบางคน อีกทั้งยังเป็นวิธีแก้ไขที่ใช้ได้ในระยะสั้นๆ เท่านั้น จึงอาจสร้างความรู้สึกเบื่อหน่ายให้ใครหลายคนเอาได้ง่ายๆ เพราะไม่สามารถปรับเปลี่ยนทรงผมได้หลากหลายหรือตามต้องการ คงดีกว่าถ้าเราสามารถลดระยะห่างของพื้นที่บริเวณหน้าผากให้มีมิติกำลังดี ด้วยกรอบหน้าใหม่กับเส้นผมเรียงสวยอย่างเป็นธรรมชาติโดยผู้เชี่ยวชาญ จาก 3 ดังนี้

  • เทคนิค Non-Shave หรือ Long Hair Transplant คือ การปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด เป็นการใช้เทคโนโลยีหัวเจาะเซลล์รากผมขนาดเล็ก หรือหัวเจาะที่สามารถดึงเส้นผมและเซลล์รากผมออกมาปลูกต่อบริเวณที่มีปัญหาได้ได้ โดยที่ยังคงความยาวของเส้นผมเดิมไว้อยู่ ทำให้สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในทันที ทั้งยังเป็นวิธีที่ช่วยลดระยะเวลาพักฟื้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
  • การทำ Female Hairline ด้วยเทคนิค FUE (DOHT) คือ การปลูกผมถาวรแบบไม่ผ่าตัด (FUE) โดยใช้หัวเจาะชนิดพิเศษที่ช่วยถนอมเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอยอย่างปลอดภัย ก่อนจะนำมาจัดเรียงใหม่ตามแนวทิศทางของไรผมที่ออกแบบไว้ในตอนแรก เรียกว่าเทคนิค DOHT ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของ Dr.Orn เพื่อสร้างกรอบหน้าสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ช่วยแก้ปัญหาไรผมบางพร้อมจัดกรอบหน้าใหม่ให้ละมุนขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด ต้องการหลีกเลี่ยงรอยแผล ทำครั้งเดียวเห็นผล และไม่อยากเสียเวลาพักฟื้นเยอะ จึงเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมในผู้หญิงค่อนข้างมาก

เพราะเส้นผมก็คือองค์ประกอบหนึ่งของร่างกาย แม้เราจะมองเห็นปัญหาแต่เราอาจไม่สามารถทราบได้เลยว่าต้นตอของปัญหานั้นเกิดจากอะไร แล้วจะลุกลามบานปลายไปสู่จุดสุดท้ายที่ตรงไหนได้บ้าง นอกจากการหาข้อมูลจริงจังด้วยตัวเองแล้ว การตัดสินใจเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง อาจช่วยตอบคำถามหัวเถิกทำไงดี ? และอาจเป็นสิ่งที่เส้นผมของคุณกำลังต้องการ!

นัดคิวปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเส้นผม Dr. Orn Clinic


อยากมีเส้นผมสวยสุขภาพดี แต่แฟชั่นทำสีก็ยังอยากทำ! แม้ปัจจุบันเราจะมีวิธีดูแลเส้นผมตั้งแต่หลังทำสี ดัด หรือยืด แทบจะในทันที ยังหนีไม่พ้นเส้นผมโดนทำร้ายอยู่ดี แถมรู้ตัวอีกทีก็เริ่มมีปัญหาผมแห้ง ชี้ฟู ไม่มีน้ำหนักไปซะแล้ว! อยากหลุดจากการมูฟออนเป็นวงกลมต้องทำยังไง ? เรามัดรวม 5 โปรแกรมดูแลเส้นผมยอดนิยมจาก Dr.Orn มาให้แล้ว…

3 เรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน ทำผมพังหลุดร่วงไม่รู้ตัว! 

ก่อนจะไปดูโปรแกรมดูแลเส้นผมขั้นแอดวานซ์ที่เรานำมาฝาก มาสำรวจปัญหาหนักใจแต่เบาหัว เมื่อเส้นผมมีปัญหาชี้ฟูและขาดน้ำหนัก แถมยังหลุดร่วงง่ายๆ ไปกับหลายๆ กิจกรรมที่ไม่ใช่แค่ตอนอาบน้ำสระผมเท่านั้น ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ยังมาจากพฤติกรรมสุดแสนจะใกล้ตัว แต่ส่งผลต่อสุขภาพเส้นผมเข้าอย่างจัง ดังนี้

  • ผมร่วง ผมแห้ง จากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ผลิตภัณฑ์ช่วยดูแลเส้นผมที่มีอยู่มากในปัจจุบัน เช่น สูตรลดผมร่วง ลดความมัน หรือขจัดรังแค ที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมของแต่ละคนที่มีมาไม่เหมือนกัน แต่เมื่อเราใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ตรงกับปัญหาหรือสภาพเส้นผม จึงส่งผลให้เส้นผมอ่อนแอ ที่ในบางคนอาจเริ่มจากเส้นผมบางจนขาดหลุดร่วง หรือผมเปราะแตกหัก แห้งเสียง่าย 
  • ผมแห้งเสีย-แตกปลาย จากการทำสีและความร้อน ทั้งการไดร์ หนีบและยืด รวมถึงการทำสีที่ต้องผ่านกรรมวิธีเปิดเกล็ดผม (ทำให้ผมเสียก่อน) ไหนจะปัจจัยกระตุ้นจากสภาพแวดล้อมรายวัน เช่น รังสี UV ฝุ่นควัน หรือควันบุหรี่ ล้วนเป็นต้นตอของปัญหาผมเปราะบาง และแตกหักได้ง่ายมากขึ้น 
  • เชื้อรา-รังแค จากวิธีดูแลเส้นผมผิดๆ ทั้งจากอุณหภูมิน้ำที่ร้อนเกินไป การออกแรงสระ หรือเช็ดผมโดยการขยี้ที่รุนแรง การเป่าผมด้วยความร้อน ไปจนถึงช่วงเวลาในการสระผมที่มีผลต่อการสะสมความชื้นบนหนังศีรษะ จนก่อให้เกิดปัญหาเชื้อราและรังแคตามมาได้ ซึ่งพบได้บ่อยในผู้ที่ชอบสระผมตอนกลางคืน

5 สุขภาพผมในฝัน! ดูแลเส้นผมยังไง… ก็ขอให้ได้อะไรแบบนี้

ปัญหาข้างต้นที่กล่าวมา เชื่อว่าเป็นสิ่งที่หลายๆ คนกำลังประสบพบเจอ พร้อมๆ กับความพยายามหาวิธีบำรุงเพราะหวังฟื้นฟูสภาพเส้นผมให้ดูดีเป็นธรรมชาติ เพื่อให้ได้เส้นผมที่มีคุณภาพดั่งใจ ประมาณนี้!

  • อยากให้ผมยาวเร็ว เพราะเปลี่ยนทรงผมได้หลากหลาย ไม่จำเจ แต่กว่าเส้นผมจะยาวยังต้องใช้ระยะเวลาราวๆ 3-4 เดือน ยิ่งเมื่อเส้นผมมีปัญหาอาจต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูค่อนข้างมาก การมีผมยาวสวยจึงยิ่งล่าช้าออกไป 
  • อยากให้ผมหนา เพื่อช่วยเสริมกรอบหน้าให้มีมิติขึ้น โดยเฉพาะสาวๆ ที่มีปัญหาผมลีบแบนจนแทบเปลี่ยนผมเป็นทรงอื่นไม่ได้ อาจต้องการ How to ทำยังไงให้เส้นผมมีขนาดใหญ่จนดูหนาขึ้น (เดี๋ยวเรามีวิธีบอก)
  • อยากให้ผมมีน้ำหนัก ความต้องการหลักๆ ที่ไม่เว้นแม้แต่ในผู้ชาย เพราะเส้นผมที่มีน้ำหนักเราอาจจะไม่ต้องจัดการอะไรมาก ทั้งยังช่วยเสริมบุคลิกภาพได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
  • อยากให้ผมเงางาม ไม่ชี้ฟู เพราะแค่ความร้อนที่ต้องเจอในชีวิตประจำวัน ก็เพียงพอที่จะทำให้ผมแตกปลายและแห้งเสียตลอดเวลา การมีเส้นผมดกดำเงางามจึงเป็นความต้องการที่หลายๆ คนใฝ่ฝันถึง
  • อยากให้ผมไม่เปราะบาง เป็นอีกหนึ่งความต้องการของทุกคน เพราะยิ่งเส้นผมที่เปราะบางหรืออ่อนแอ จะยิ่งเพิ่มโอกาสของผมขาดหลุดร่วงได้ง่าย ที่อาจลุกลามบานปลายกลายเป็นปัญหาผมบางได้ในที่สุด 

แต่กว่าผมชุดใหม่จะงอกยาวเป็นเส้นผมปกติ ยังอาศัยระยะเวลาเกือบปี! อยากฟื้นฟูสุขภาพผมแบบเร่งด่วนจึงต้องมีตัวช่วยดูแล แล้วมีโปรแกรมดูแลเส้นผมแบบไหนที่ตอบโจทย์บ้าง ?

5 โปรแกรมดูแลเส้นผมยอดนิยมจาก Dr.Orn 

เรื่องของเส้นผมยังส่งผลต่อความรู้สึกไม่มั่นใจ จนหลายคนเริ่มกังวลหนักถึงขั้นมองหาว่าปลูกผม ที่ไหนดี… เพราะเกรงว่าผมที่มีจะร่วงหมดไปเสียก่อน แต่ก่อนจะไปถึงจุดปลูกผมถาวร เรามีขั้นตอนดูแลเส้นผมจาก 5 โปรแกรมดูแลเส้นผมยอดนิยมจาก Dr.Orn ที่หลายคนลงใจปักหมุดเลือกใช้ มาฝากกัน!

1.สเต็มเซลล์บำรุงเส้นผม SVF HAIR CELL

เพราะสาเหตุของผมร่วง ผมบาง ยังมาจากพันธุกรรมเป็นส่วนใหญ่ การทำ SVF HAIR CELL จึงเป็นนวัตกรรมทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่มีปัญหาผมเส้นเล็กลง ผมบางจนเห็นหนังศีรษะชัด ผมไม่แข็งแรง ขาดหลุดร่วงง่าย หรือผู้ที่ไม่สามารถทำการปลูกผมโดยการใช้สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อรากผมมาสกัดให้ได้ส่วน Stem Cell เข้มข้น แล้วนำกลับมาฉีดในบริเวณที่เป็นปัญหา ช่วยซ่อมแซมเซลล์รากผม กระตุ้นรากผมให้มีการเจริญเติบโต เพิ่มอัตราการงอกของผมเส้นใหม่ พร้อมฟื้นฟูผมเส้นเล็กให้กลับมาหนาอีกครั้ง เพิ่มความมั่นใจโดยไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลภายใน 3 เดือน และอยู่ได้ถึง 1 ปี

2.การทำ PRP Stem Cell

เทคนิคฟื้นฟูเซลล์รากผมจากเลือดตนเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลามาก ไม่ต้องพักฟื้น โดยการนำเลือดไปสกัดเอา Stem Cell เข้มข้น และนำมาฉีดกลับในบริเวณที่มีปัญหาผมบาง ช่วยลดอาการผมบาง กระตุ้นให้ผมเส้นใหญ่ขึ้น ทำให้เส้นผมกลับมาแข็งแรง ลดการขาดหลุดร่วง และเพิ่มอัตราการงอกของเส้นผมใหม่ เรียกความมั่นใจให้กลับคืนมาได้อีกครั้ง

3.โปรแกรมดูแลเส้นผม Triple H Solution program

โปรแกรมบำรุงที่ช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผมพร้อมช่วยบำรุงให้ผมหนาขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบาง ผมเส้นเล็กลง ผมไม่แข็งแรง ขาดหลุดร่วงง่าย ด้วยเทคนิคผลักวิตามินเข้มข้นสู่หนังศีรษะใน 3 ขั้นตอน สะกิดวิตามินเข้มข้นเบาๆ ที่หนังศีรษะ และใช้เครื่องช่วยผลักวิตามินให้ซึมเข้าผิวและรากผมโดยตรง ร่วมกับการฉายแสงสีแดงที่ความยาวคลื่น 630 นาโนเมตร (Low level laser therapy) เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณหนังศีรษะ ช่วยกระตุ้นให้ผมหนาขึ้น ลดการหลุดร่วงของเส้นผม ปลอดภัย ไม่ต้องพักฟื้น ไม่เจ็บ คุณแม่หลังคลอดก็สามารถทำได้

4.โปรแกรมดูแลเส้นผม Sensitive treatment program

คือการตรวจสภาพเส้นผมปัจจุบันด้วยโปรแกรม Trico analysis พร้อมเทคนิคช่วยกำจัดสิ่งตกค้าง OXY DEEP CLEANSING ด้วยตัวยา Anti-dandruff ที่ตรงเข้ากำจัดสารปนเปื้อนที่เกาะติดบริเวณหนังศีรษะและเส้นผมให้หลุดออก เช่น สารเคมี และมลภาวะ ด้วยตัวยาสูตรเฉพาะของ Dr.Orn (สูตร Sensitive) ที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการอักเสบ ลดกลิ่นอับชื้นบนหนังศีรษะ พร้อมลดคราบรังแคซึ่งเป็นตัวแปรของการอักเสบบริเวณหนังศีรษะ พร้อมปรับสภาพหนังศีรษะให้แข็งแรงขึ้น

5.โปรแกรมดูแลเส้นผม Keratin program

เทคนิคที่เน้นเสริมความแข็งแรงให้เส้นผม ลดปัญหาผมขาดหลุดร่วง และชี้ฟูจากกิจกรรมต่างๆ ด้วยโปรแกรมฟื้นฟูใน 4 ขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจเช็กสภาพเส้นผมเพื่อดูความรุนแรงของปัญหา (ทั้งก่อนและหลังทำ) การทำ OXY DEEP CLEANSING ชำระล้างสิ่งตกค้างและสารปนเปื้อนออกจากหนังศีรษะและเส้นผม การทำ KERATIN TREATMENT เพิ่มวอลลุ่มให้เส้นผมเงางามนุ่มลื่นอย่างเป็นธรรมชาติ จบด้วยขั้นตอน Nano Mist O2 การลงทรีตเมนต์ด้วยคลื่น Microwave เพื่อผลักไอน้ำโมเลกุลขนาด 0.6 NM. ช่วยเปิดเกล็ดผมและนำวิตามินเคราตินบริสุทธิ์ตรงเข้าสู่เส้นผมอย่างล้ำลึก

อยากให้ผมมีน้ำหนักจัดทรงง่าย อย่าเผลอทำร้ายเส้นผมเป็นว่าเล่น! เพราะวงจรเส้นผมเดิมๆ ก็ใช้เวลาเติบโตกว่า 3-4 เดือนแล้ว หากเส้นผมมีปัญหาซ้ำเข้าไปอีก การเจริญเติบโตที่ว่าก็ถูกยืดเวลาออกไปได้ นอกจากการบำรุงดูแลตัวเองในเบื้องต้น การเลือกโปรแกรมดูแลเส้นผมกับผู้เชี่ยวชาญ ยังเป็นการยับยั้งและรักษาปัญหาถึงต้นเหตุ ช่วยหยุดการมูฟออนเป็นวงกลม เพราะปัญหาเส้นผมต้องมีผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแล

ผู้นำด้านบริการดูแลเส้นผมโดยผู้เชี่ยวชาญ Dr. Orn Medical Hair Center